รูปแบบ Social Network

            Social network หมายถึง สังคมออนไลน์ที่จะช่วยหาเพื่อนบนโลกอินเทอร์เน็ตได้ง่ายๆ สามารถที่จะสร้างพื้นที่ส่วนตัวขึ้นมา และได้ทำความรู้จักกับเพื่อนหรือคนอื่นๆ และยังสามารถแนะนำตัวเองได้เช่น Hi5, Friendster, MySpace, FaceBook, Orkut, Bebo, Blog,Tagged เป็นต้น 


แหล่ง Social Network ต่างๆ

                เว็บไซต์ Social Network เหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นเว็บที่สร้างขึ้นมาเพื่อการตอบสนองความต้องการในการติดต่อธุรกิจหรือหาเพื่อนบนโลกไซเบอร์ทั้งสิ้น ดังที่พบได้ในปัจจุบัน ซึ่งมีความนิยมเป็นอย่างมากในโลกของอินเทอร์เน็ต 

การใช้ Social Network เพื่อการเรียนการสอน
1.  การใช้เว็บบล็อก (Weblog) เพื่อการเรียนการสอน 
                Blog มาจากคำว่า World Wide Web ซึ่งหมายถึงเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่เชื่อมโยงกันไปทั่วโลกกับคำว่า log แปลว่า บันทึก รวมกันเป็น Weblog (เว็บบล็อก) 
                การสร้างสรรค์เว็บบล็อกให้สวยงาม เนื่องจากเว็บบล็อกได้รับความนิยมสูงทั่วโลกจึงมีหลายบริษัทที่คิดค้นสร้างสรรค์องค์ประกอบต่างๆ ที่ใช้ในการตกแต่งเว็บบล็อกให้สวยงาม โดยการเขียนโค้ชหรือสคริปต์ต่างๆ เช่น คน การ์ตูน สัตว์ พืช ดอกไม้ สิ่งของต่างๆ ทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวไว้สำหรับบริการกลุ่มเป้าหมายให้สามารถนำไปใช้งานได้ทันทีโดยไม่ต้องมีความรู้ในการเขียนโปรแกรมแต่อย่างใด ช่วยให้การสร้างสรรค์เว็บบล็อกสะดวกและง่ายขึ้นเพียงแต่เว็บบล็อกล้วนแต่สร้างผลงานให้มีลักษณะสวยงาม แปลกตา น่าสนใจ 

วัตถุประสงค์การใช้เว็บบล็อก (Weblog) เพื่อการเรียนการสอน 





การใช้เว็บบล็อกเพื่อการเรียนการสอนมีวัตถุประสงค์ ดังนี้
            1.      เพื่อกระตุ้นความสนใจของผู้เรียน
            2.      เพื่อเป็นแหล่งรวบรวมเนื้อหา
            3.      เพื่อเป็นสื่อในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับบุคคลอื่น
            4.      เพื่อการติดตามการปฏิบัติงานของผู้เรียน
            5.      เพื่อเป็นสื่อในการเผยแพร่ผลงานของผู้เรียน
            6.      เพื่อเป็นสื่อเชื่อมโยงในการศึกษาค้นคว้ากับเว็บไซต์อื่นๆ
            7.      เพื่อความสนุกเพลิดเพลินของผู้เรียน
            8.      เพื่อฝึกทักษะการใช้คอมพิวเตอร์ในการแสวงหาแหล่งเรียนรู้ต่างๆ

ประโยชน์ของ Weblog
จุดเด่นที่สุดของ Blog ก็คือ มันสามารถเป็นเครื่องมือสื่อสารชนิดหนึ่ง ที่สามารถสื่อถึงความเป็นกันเองระหว่างผู้เขียนบล็อก และผู้อ่านบล็อกที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย ที่ชัดเจนของบล็อกนั้น ๆ ผ่านทางระบบ comment ของบล็อกนั่นเอง
               1. เป็นสื่อที่ใช้ในการแสดงความคิดเห็น ความรู้สึกของผู้เขียนเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ เพื่อเสนอให้ผู้คน สาธารณะได้รับรู้
               2. เป็นเครื่องมือช่วยในด้านธุรกิจ เช่น การโฆษณา ประชาสัมพันธ์ การเสนอข่าวสารความเคลื่อนไหวขององค์กร การเสนอตัวอย่างสินค้า การขายสินค้า และการทำการตลาดออนไลน์ เป็นต้น
               3. เป็นแหล่งความรู้ใหม่ๆ ที่ถูกต้องและชัดเจน จากผู้มีความรู้เฉพาะด้านนั้นๆ เนื่องจากผู้เขียน Blog มักจะเขียนถึงเรื่องที่ตัวเองถนัด ชอบ และมีความรู้ลึกในเรื่องนั้นๆ การค้นหาข้อมูลเฉพาะด้านใน Blog ต่างๆ จึงทำให้เราค้นพบความรู้ และผู้มีความรู้ความชำนาญในด้านต่าง ๆ ได้รวดเร็วขึ้น
               4. ทำให้ทันต่อเหตุการณ์ในโลกปัจจุบัน เพราะข่าวสารความรู้ มาจากผู้คนมากมาย(ทั่วโลก) และมักจะเปลี่ยนแปลงได้ทันกับเหตุการณ์ปัจจุบันเสมอ
               5. ไม่ต้องใช้ความรู้ทางคอมพิวเตอร์ชั้นสูงก็สามารถทำได้
               6. ไม่ต้องขอพื้นที่บนเครือข่ายอินเตอร์เน็ตเหมือนเว็บไซต์ทั่วไป
               7.  สามารถบรรจุภาพนิ่ง เสียง และภาพเคลื่อนไหวเหมือนเว็บไซต์ทั่วไปได้
               8.  สามารถใช้งานหรือปรับแต่งให้สวยงามได้ด้วยตนเอง นำมาประยุกต์ใช้กับการเรียนการสอนได้ดี
               9.  สำหรับ Weblog ของ Blogger สามารถบรรจุบทความได้มากถึง 999 บทความ
             10. สามารถสร้างสรรค์องค์ประกอบต่างๆ ที่เป็นประโยชน์กับการทำงานได้หลายอย่าง เช่น ตัวเลขนับผู้ชม (counter) กระดานข่าว (web board)  สไลด์(slides) คลิปวีดิทัศน์ (video  clip) เป็นต้น
             11.สามารถเชื่อมโยงกับเว็บไซต์อื่น ๆ ได้ตามต้องการ

ส่วนประกอบของบล็อก
                เว็บบล็อกของ Blogger มีส่วนประกอบสำคัญ 3 ส่วนได้แก่ 
1.             ส่วนหัวบล็อก
2.             ส่วนบทความ
3.             ส่วนปรับแต่ง

ตัวอย่างWeblog 




2.  การนำเสนอแบบ  Web page 
              เป็นรูปแบบที่การนำเสนอแบบเดียวกับที่ใช้บนอินเทอร์เน็ต ปัจจุบันนิยมใช้ในรูปแบบนี้มากขึ้นในการนำเสนอต่อที่ประชุม เว็บเบราเซอร์ (Web browser) เป็นโปรแกรมที่ใช้แสดงผล ส่วนโปรแกรมที่ใช้สร้างเวบเพจหรือแต่ละหน้านั้นมีวิธีทำได้หลายวิธีตั้งแต่วิธีดั้งเดิมที่สุดคือการเขียนด้วยภาษา HTML (Hypertext  Markup  Language)  หรือใช้โปรแกรมประเภท   Software   tool 

ตัวอย่างเว็บไซต์ที่สร้างขึ้นโดย Web Page

Word Press คืออะไร
             Word press  คือโปรแกรมชนิดหนึ่ง ที่มีระบบในการช่วยจัดการเนื้อหาบนเว็บ ได้อย่างง่าย หรือที่หลายๆ คนใช้คำว่า Contents Management System (CMS) ซึ่งจริงๆ แล้ว โปรแกรมประเภท CMS มีมากมาย อย่างเช่น PHP Nuke, Joomla, Mambo, OScommerce, Magento เป็นต้น
            Wordpress เป็น CMS ประเภท Blog ซึ่งพัฒนาขึ้นโดยภาษา PHP และทำงานบนฐานข้อมูล MySQL ภายในสัญญาอนุญาตใช้งานแบบ General Public License (GNU) มีเวปไซต์หลักอยู่ที่ http://www.wordpress.org  และมี free hosting สำหรับขอรับบริการฟรีที่ http://www.wordpress.com
          Wordpress เป็นโปรแกรมที่ใช้งานง่าย สำหรับคนที่ต้องการมีบล็อกส่วนตัว เป็นที่โปรแกรมที่นิยมกันทั่วโลก รวมทั้งในประเทศไทย นอกจากการติดตั้งง่ายแล้ว Word press  ยังมีข้อดีก็คือ สามารถหาดาวน์โหลดธีม (Themes) หรือหน้าตาของเว็บ รูปแบบต่างๆ ที่เหมาะกับความต้องการ รวมทั้งปลั๊กอิน (Plugins) เสริมอื่นๆ


สรุปสาระสำคัญ
                การนำเสนองานมีวัตถุประสงค์คือ  เพื่อให้ผู้ชมเข้าใจสาระสำคัญของการนำเสนอ และให้ผู้ชมเกิดความประทับใจ ซึ่งจะนำไปสู่ความเชื่อถือในผลงานที่นำเสนอ การใช้สื่อ โสตทัศนศึกษาช่วยให้เกิดการรับรู้ช่วยให้เกิดการรับรู้ที่ดีขึ้น รวมทั้งช่วยให้จดจำเนื้อหาได้มากขึ้น ทั้งนี้ หลักการขั้นพื้นฐานของการนำเสนอผลงานมีจุดเน้นสำคัญคือ การดึงดูดความสนใจ ความชัดเจนและเสียงประกอบที่เหมาะสมด้วย
                เครื่องมือที่ใช้ในการนำเสนอผลงานนั้น แต่เดิมมักใช้เครื่องฉายสไลด์และเครื่องฉายแผ่นใสเป็นหลัก แต่ในปัจจุบันนี้นิยมใช้เครื่องคอมพิวเตอร์และเครื่องฉายภาพแอลซีดี รูปแบบการนำเสนอที่ยังนิยมใช้กันมากคือ การนำเสนอแบบ Slide Presentation โดยใช้โปรแกรม PowerPoint แต่มีแนวโน้มว่าการนำเสนอแบบ Web Page อาจเข้ามาแทนที่